เกมยิงสุดมันส์ ที่วัยรุ่นสุดเฟี้ยวหลายๆคนชื่นชอบ Free Fire และ Pubg วันนี้ 789better จะมาเทียบกันให้เห็นจะๆว่า Free Fire vs Pubg อันไหนดีกว่ายังไงแตกต่างกันยังไง ถ้าทุกคนพร้อมแล้ว ก็ไปกันเลย!
ทำไมต้อง Free Fire VS Pubg
เกม Free Fire และ PUBG เป็นเกมแนว Battle Royal แนวเดียวกัน และมีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน โดยวิธีการเล่นคือการที่เราจะถูกปล่อยไปที่เกาะแห่งนึงพร้อมๆกับผู้เล่นคนอื่นๆอีกมากมาย จากนั้นเราต้องเดินทางเพื่อไปหาอาวุธยุปโธปกรณ์ต่างๆ เพื่อนำมาใช้เอาชีวิตรอดจากคู่ต่อสู้คนอื่น ภายในบริเวณเกาะทีจำกัด แต่ถึงจะบอกว่าจำกัดก็เถอะ แต่จริงๆแล้วก็เป็นบริเวณที่กว้างพอตัว ดังนั้นเพื่อไม่ให้ผู้เล่นหลบหน้ากันเอง หรือหากันไม่เจอ ตัวเกมจึงกำหนดอาณาเขตแห่งแสงขึ้นมาเป็นวงกลม เพื่อบีบให้ผู้เล่นเข้าไปอยูในบริเวณที่ใกล้ๆกัน หากผู้เล่นออกนอกวงไปสัมผัสโดนวงแหวนแห่งแสน จะทำให้เลือดลดเรื่อยๆ จนถึงตายเลยทีเดียว และด้วยความเหมือนนี้นี่เอง จึงทำให้ใครหลายๆคนเปิดประเด็นกันว่า เกมไหนที่จะเป็นสุดยอดเกมแห่ง Battle Royal ที่แท้จรง!
ข้อแตกต่างของ Pubg และ Free Fire
Free Fire เป็นเกมที่พัฒนาโดยบริษัท 111 ดอตส์สตูดิโอ วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2560 ผ่านทางแอป ios และ android และกลายมาเป็นเกมมือถือที่ได้รับรางวัลยอดดาวน์โหลดสูงที่สุดในปี 2562 ได้รับรางวัลเกมยอดนิยมโดย Google Playstore ในปี 2563 พร้อมสร้างสถิติผู้ใช้รายวันกว่า 80 ล้านคนทั่วโลก
Pubg หรือ PlayerUnknown’s Battlegrounds เป็นเกมที่พัฒนาโดยบริษัท PUBG Corperation ในเครือของ Bluehole วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2560 ผ่านทางระบบวินโดว์ หรือเล่นในคอมนั่นเอง และต่อมาก็ได้มีการเพิ่มแหล่งจำหน่ายออกไปทาง XBox 1 โดยต่อมา Tencent บริษัทจากประเทศจีน ได้เข้ามาร่วมมือด้วย และพัฒนาระบบให้สามารถเล่นในมือถือได้ และปล่อยออกมาพร้อมกันผ่านทาง ios และ android เมื่อปี 2561
จุดเด่นของแต่ละเกม
เกมทั้งสองถึงจะมีแนวเกมทีคล้ายกัน แต่ว่ามีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป Free Fire มีจุดเด่นคือ มีการกินสเปคที่ค่อนข้างต่ำ สามารถเล่นได้แม้มือถือไม่แรง โดยจะกินสเปคแค่ระดับกลาง – ต่ำ เท่านั้น ทำให้เข้าถึงผู้เล่นมากมายได้มากกว่า และสำหรับคนไทย Free Fire จะมีผู้เล่นเยอะกว่า เพราะว่าสื่อสารกันง่ายกว่าการเล่น Pubg ส่วนในเรื่องของกราฟฟิค แน่นอนว่าเกมที่กินสเปคต่ำกว่า ต้องมีภาพที่ไม่ได้สมจริงเท่าอยู่แล้ว Free Fire จึงเป็นภาพที่ออกแนวเป็นการ์ตูนหน่อยๆ ในขณะที่ Pubg นั้นเป็นภาพแบบสมจริงนั่นเอง
ในส่วนความสามารถของตัวละครก็ยังมีความแตกต่าง ใน Pubg จะไม่มีตัวละครที่แตกต่างกัน เต็มที่ก็แค่การแต่งกาย หรือแฟชั่นต่างๆ ในขณะที่ Free Fire มีตัวละครที่แตกต่างกัน มีสกิลที่ไม่เหมือนกัน และยังมีสัตว์เลี้ยงเพื่อเพิ่มความสามารถต่างๆอีกด้วย ในส่วนของระยะเวลาในการเล่น Pubg จะรองรับบผู้เล่นได้มากกว่า แผนที่ใหญ่กว่า จึงทำให้เกมมีความนานกว่า โดยระยะเวลาเฉลี่ยต่อเกมจะอยู่ที่ 30 นาที ในขณะที่ Free Fire จะมีระยะเวลาเกมราวๆ 15 นาทีต่อเกม เนื่องจากผู้เล่นรองรับได้น้อยกว่า และแผนที่มีความเล็กกว่านั่นเอง
สรุป
ทั้งนี้ การที่จะสรุปได้ว่าเกมไหนดีกว่า คงจะตอบไม่ได้เลยซะทีเดียว เนื่องจากรายละเอียดที่แตกต่างกัน จึงทำให้ไม่สามารถเปรียบเทียบได้อย่างเหมาะสม ดังนั้นหากต้องเลือกว่าจะเล่นอะไร ควรเลือกให้เหมาะสมกับสิ่งที่เราต้องการเล่นจะดีที่สุด หากไม่อยากใช้สเปคมือถือเยอะ หรือเป็นแนวการ์ตูนง่ายๆ ดูภาพไม่ซีเรียสก็สามารถไปเล่น Free Fire ได้ แต่หากต้องการความลุ้นระทึกและความสมจริง ก็ไปเลือกเล่น Pubg ได้นั่นเอง
789BETTER เว็บตรง ไม่ผ่านเอเย่นต์
หากเหนื่อยจากการยิงปืนแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Free Fire หรือ Pubg สามารถมาเล่นเกมผ่อนคลายสนุกๆกับเราได้ที่นี่! เพราะเรามีค่ายเกมให้เลือกมากมาย พร้อมเกมอีกหลากหลายมากกว่าหนึ่งพันเกม! สมัครตอนนี้พร้อมโปรโมชั่นสมาชิกใหม่ได้เลย! คลิกที่นี่
ติดตามโปรโมชั่นมากมายได้ ที่นี่!